![]() |
|||||||||||||||
ผู้ติดเชื้อเอชไอวีควรดูแลตนเองอย่างไรไม่ให้ไปสู่ภาวะเอดส์ ?
รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้เคร่งครัดตรงเวลา สังเกตการตอบสนองต่อการรักษา และอาจรักษาภาวะติดเชื้อฉวยโอกาส ซึ่งเป็นภาวะติดเชื้อที่เกิดขึ้นบ่อย และรุนแรงในผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วย รับประทานอาหารที่สุก สะอาด เพราะการรับประทานอาหารที่ปรุงไม่สุก อาจเพิ่มความเสี่ยงการเกิดผลข้างเคียงและอาการต่าง ๆ ของโรคได้ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม นอกจากการออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง ส่งเสริมสุขภาพจิตและบุคลิกภาพที่ดีแล้ว ยังลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมอง ซึ่งพบได้มากขึ้นเมื่อติดเชื้อ HIV ด้วย ดูแลสุขภาพจิต เป็นเรื่องปกติที่ผู้ป่วยจะรู้สึกเครียด ซึมเศร้า และวิตกกังวลเป็นอย่างมากหลังจากทราบว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งผู้ป่วยอาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เช่น จิตแพทย์ นักจิตวิทยา รวมถึงเข้าร่วมกลุ่มพูดคุยให้คำปรึกษาต่าง ๆ ในท้องถิ่นหรือตามสังคมออนไลน์ เพื่อรับคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ คลายความกังวล และเสริมสร้างกำลังใจจากผู้ที่เห็นอกเห็นใจหรือมีประสบการณ์เดียวกัน ซึ่งผู้ป่วยสามารถสอบถามข้อมูลด้านนี้เพิ่มเติมได้จากสถานพยาบาลผู้ติดเชื้อเอชไอวีทั่วไป นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจดูแลสุขภาพจิตได้โดยการทำจิตใจให้สงบ เช่น การนั่งสมาธิ หรือทำสมาธิจินตนาการถึงสิ่งที่ทำให้รู้สึกสงบ สบาย จนลืมเรื่องกังวลใจ เป็นต้น เลิกบุหรี่ ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีมีแนวโน้มได้รับผลข้างเคียงต่าง ๆ จากการสูบบุหรี่มากกว่าคนทั่วไป อีกทั้งบุหรี่ยังเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคร้ายแรงอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคปอด และปอดติดเชื้อ เป็นต้น เลิกใช้ยาเสพติด การใช้ยาเสพติด เช่น โคเคน เฮโรอีน หรือยาบ้า อาจทำให้อาการต่าง ๆ ของผู้ป่วยแย่ลงได้ และเพิ่มความเสี่ยงที่จะรับประทานยาไม่ตรงเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสพยา ด้วยการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นอาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อต่าง ๆ เช่น โรคไวรัสตับอักเสบ ที่อาจทำให้เชื้อเอชไอวีในร่างกายเจริญเติบโตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่หากเลิกเสพยาด้วยตนเองไม่ได้ ควรไปปรึกษาแพทย์ หรือขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบำบัดรักษาและเลิกใช้ยาเสพติด ป้องกันตนเองจากการติดเชื้อซ้ำ เชื้อเอชไอวีสามารถแพร่กระจายผ่านทางของเหลวต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น เลือด น้ำอสุจิ น้ำหล่อลื่น ของเหลวจากช่องทวารหนัก ของเหลวจากช่องคลอด และน้ำนม เป็นต้น
ดังนั้น ผู้ติดเชื้อเอชไอวีควรใช้ถุงยางอนามัย ทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ แม้ว่าผู้ป่วยจะรับประทานยาต้านเชื้อเอชไอวีอยู่เสมอ และคู่นอนจะติดเชื้อแล้วก็ตาม เพื่อป้องกันการดื้อยาจากการติดเชื้อซ้ำ ตั้งครรภ์หรือคลอดบุตรขณะติดเชื้อเอชไอวี ควรดูแลตนเองอย่างไร ?
โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขประเทศไทยแนะนำให้ผู้ป่วยดูแลความปลอดภัยของตนเองและทารกในครรภ์ตามแนวทางป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก ดังต่อไปนี้
ติดตามการรักษา เพราะแพทย์อาจต้องตรวจนับจำนวนไวรัส และดูการตอบสนองต่อการรักษาของผู้ป่วย เพื่อปรับยาต้านไวรัสให้เหมาะสม
ข้อจำกัดของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
|